29 ก.พ. 2020

อธิการ มรส.ประกาศ 6 มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค COVID-19

alt

เมื่อวานนี้(28 ก.พ.63)มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี(มรส.) ออกประกาศมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค COVID-19 ในหลายบระเทศทั่วทุกภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก และมีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดในประเทศไทย ในการนี้ เพื่อเป็นการควบคุมความเสี่ยงและเพิ่ม มาตรการป้องกันเชื้อโรคดังกล่าวไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของนักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากรตลอดจนการ ดําเนินงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา รัตนพรหม รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยได้อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 31 (1) และ (2) แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2557 ประกอบกับข้อ 15 วรรคสาม แห่งระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ.2555 จึงเห็นสมควรให้ดําเนินการ ดังนี้

ข้อ 1 มหาวิทยาลัยกําหนดให้ประเทศหรือพื้นที่ต่อไปนี้ เป็นประเทศหรือพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ โรค COVID-19 ดังนี้ 1. สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) 2. สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) 3. สาธารณรัฐประชาชนจีน 4. เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน 5. เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน 6. ญี่ปุ่น 7. มาเลเซีย 8. สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และ 9. สาธารณรัฐสิงคโปร์

ข้อ 2 ไม่อนุมัติหรืออนุญาตให้นักศึกษา คณาจารย์ บุคลากร หรืออาจารย์แลกเปลี่ยนภายใต้การ บังคับบัญชาของมหาวิทยาลัย ไปปฏิบัติราชการหรือลาเพื่อเดินทางไปยังหรือแวะผ่าน (Transit) ประเทศหรือพื้นที่ เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค COVID-19 ตามที่มหาวิทยาลัยประกาศกําหนดไว้ในข้อ 1 ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 จนถึงวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2563

ข้อ 3 กรณีที่ได้รับอนุมัติหรืออนุญาตให้ไปปฏิบัติราชการหรือลาเพื่อเดินทางไปยังประเทศหรือพื้นที่ เสียงดังกล่าวอยู่ก่อนประกาศนี้ ให้นักศึกษา คณาจารย์ บุคลากร หรืออาจารย์แลกเปลี่ยนภายใต้การบังคับบัญชา ของมหาวิทยาลัย งดหรือเลื่อนการเดินทางออกไปให้พ้นระยะเวลาที่กําหนดในข้อ 2 หรือจนกว่าจะมีประกาศ เปลี่ยนแปลงอื่นของมหาวิทยาลัย
กรณีมีเหตุผลหรือความจําเป็นอย่างยิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังประเทศหรือพื้นที่เสี่ยง ดังกล่าวได้ให้นักศึกษา คณาจารย์ บุคลากร หรืออาจารย์แลกเปลี่ยนภายใต้การบังคับบัญชาของมหาวิทยาลัย แจ้ง เหตุผลและความจําเป็นนั้นต่ออธิการบดีเพื่อพิจารณา และเมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้วให้ดําเนินการตาม ข้อ 4

ข้อ 4 นักศึกษา คณาจารย์ บุคลากร หรืออาจารย์แลกเปลี่ยนภายใต้การบังคับบัญชาของ มหาวิทยาลัยที่เดินทางไปหรือแวะผ่าน (Transit) ประเทศหรือพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค COVID-19 และกลับ ถึงประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ได้รับอนุมัติหรืออนุญาตให้เดินทางไปปฏิบัติราชการหรือเดินทางด้วยภารกิจ ส่วนตัวให้ผู้นั้นมีหน้าที่ไปรับการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังเชื้อโรค COVID-19 ณ โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีหรือ โรงพยาบาลอื่น ๆ ของรัฐในวาระแรกที่กระทําได้ทันที แล้วรายงานผลการการตรวจดังกล่าวต่อผู้บังคับบัญชา ระดับเทียบเท่าหรือคณบดีที่ตนสังกัด การละเว้นการปฏิบัติดังกล่าวถือเป็นความผิดฐานฝ่าฝืนคําสั่งผู้บังคับบัญชา

กรณีการดําเนินการวรรคหนึ่ง หากตรวจพบหรือมีภาวะเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรค COVID-19 ให้ ผู้บังคับบัญชาระดับเทียบเท่าคณบดีของบุคคลนั้น พิจารณาสั่งให้ผู้นั้นงดเข้าชั้นเรียนหรือหยุดมาปฏิบัติงาน เพื่อ รับการรักษาจนหายเป็นปกติหรือเพื่อเฝ้าดูอาการเป็นเวลา 15 วัน นับจากวันที่กลับมาถึงประเทศไทยตาม มาตรฐานการปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุข โดยไม่ถือว่าเป็นการขาดเรียนหรือขาดการปฏิบัติงานและไม่นับเป็น วันลา

โดยกรณีการสั่งให้บุคคลงดเข้าชั้นเรียนหรือหยุตมาปฏิบัติงานเพื่อเฝ้าดูอาการตามวรรคสอง อาจารย์ ประจําวิชาหรือผู้บังคับบัญชา แล้วแต่กรณีอาจมอบหมายงานให้บุคคลผู้นั้นปฏิบัติในระหว่างที่หยุดเฝ้าดูอาการนั้นได้

ข้อ 5 ให้คณะ สํานัก สถาบัน หรือหน่วยงานสังกัดมหาวิทยาลัย งดหรือเลื่อนการเชิญบุคคลจาก ต่างประเทศมาร่วมกิจกรรมการเรียนการสอน การประชุม การสัมมนาหรือการดําเนินงานใด ๆ ของมหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 จนถึงวันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2563 ออกไปก่อน

ข้อ 6 ให้นักศึกษา คณาจารย์ บุคลากร หรืออาจารย์แลกเปลี่ยนภายใต้การบังคับบัญชาของ มหาวิทยาลัย ถือปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป

เทพพิทักษ์ ยศหมึก รายงาน
งานสื่อสารองค์กรมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราาฎร์ธานี