25 เม.ย. 2022

มรส. น้อมรำลึก”วันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช”

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 ณ อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา รัตนพรหม รักษาราชการแทนอธิการบดี พร้อมด้วยผู้บริหาร บุคลากร นักศึกษา อดีตอาจารย์และข้าราชการและผู้เข้าร่วมในระบบออนไลน์แพลตฟอร์ม Webex Meeting มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ร่วมพิธีถวายราชสักการะและทำบุญ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณ เนื่องใน “วันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” เพื่อแสดงความจงรักภักดี และแสดงความกตัญญูกตเวทิตาธรรมต่อพระมหากษัตริย์ พระองค์ทรงเป็นวีรกษัตริย์ ที่ทรงพระปรีชาสามารถอย่างล้ำเลิศมีพระอัจฉริยภาพ และฝีพระหัตถ์ในทางการรบ และเชี่ยวชาญในอาวุธทุกชนิดทรงตรากตรำพระวรกาย ในการทำศึกสงคราม และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณธิคุณล้นพ้นที่ทรงปกแผ่พสกนิกรชาวไทยให้ร่มเย็นเป็นสุข
.
ซึ่งในโอกาสนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา รัตนพรหม รักษาราชการแทนอธิการบดี ได้กล่าวคำประกาศสดุดีน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณ เนื่องใน “วันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ทรงเป็นวีรกษัตริย์ ที่ทรงพระปรีชาสามารถอย่างล้ำเลิศมีพระอัจฉริยภาพ และฝีพระหัตถ์ในทางการรบ และเชี่ยวชาญในอาวุธทุกชนิดทรงตรากตรำพระวรกาย ในการทำศึกสงคราม ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ โดยมิได้ว่างเว้น ปีพุทธศักราช 2127 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงประกาศอิสรภาพ ที่เมืองแครง ว่า ตั้งแต่วันนี้กรุงศรีอยุธยา ขาดทางไมตรีกับกรุงหงสาวดี มิได้เป็นมิตรกันดังแต่ก่อนต่อไป การกระทำเช่นนี้ถือ ได้ว่า เป็นการประกาศอิสรภาพของไทย หลังจากประกาศอิสรภาพแล้ว ก็ได้กรีฑาทัพเข้าสู่ชานเมืองหงสาวดี และรวบรวมคนไทยกลับมาได้ อีกทั้ง ยังสามารถใช้พระแสงปืนยาว ยิงข้ามแม่น้ำสะโตง ถูกแม่ทัพของพม่าที่ติดตามมา ซึ่งนั่งอยู่บนคอช้างจนเสียชีวิต ทำให้ทัพพม่าถอยกลับไป และพระแสงปืนที่ทรงใช้ในวันนั้นได้ปรากฏนามว่า “พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง” ซึ่งถือว่าเป็นอาวุธ ที่จัดอยู่ในพระแสงอัษฎาวุธ อันเป็นเครื่องราชูปโภค สำหรับพระมหากษัตริย์ สืบมาจนบัดนี้ ในวันที่ 18 มกราคม ปีพุทธศักราช 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำสงครามยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาจนได้รับชัยชนะทำให้พระบรมเดชานุภาพ แผ่ไพศาลไปทั่วปฐพี ในปีพุทธศักราช 2148 สมเด็จพระนเรศวร ยกทัพไปยังเมืองห้างหลวง และประชวรหนัก จนเสด็จสวรรคต เมื่อเดือน 6 ขึ้น 8 ค่ำ ปีมะเส็ง พุทธศักราช 2148 พระชนมายุ 50 พรรษา อยู่ในราชสมบัติ 15 ปี จากวันนั้น ถึงวันนี้ แม้พระองค์จะได้เสด็จสวรรคต มานานกว่า 400 ปีแล้ว ก็ตาม พสกนิกรไทยทั้งมวล ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และพระเกียรติคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงพระปรีชาสามารถ กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ขับไล่อริราชศัตรูตลอดพระชนม์ชีพ เพื่อสร้างความเป็นเอกราช ให้แก่ชาติไทย และเป็นมหาวีรกรรมที่เลื่องลือปรากฏ อยู่ในประวัติศาสตร์ ตราบจนทุกวันนี้
:
#สื่อสารองค์กรมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี

อดิสรณ์ เนาวโคอักษร /ข่าว
สมยศ นุ่นจำนงค์ /ภาพ