‘ราชภัฏ’ สู่ทศวรรษที่ 3 ภัยพิบัติจ่อคิวรออื้อ อธิการบดี มรส. ชี้โจทย์ใหม่ ผู้นำต้องพาองค์กรพ้นภัย
อธิการบดี ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานีเผย มหาวิทยาลัยราชภัฏก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ภัยพิบัติจ่อคิวรอเพียบ ทั้งภาวะถดถอย นักศึกษาลดจำนวน การยุบรวม แถมถูกผลักออกนอกระบบราชการ ชี้โจทย์ใหม่ ผู้นำองค์กรต้องมีศักยภาพในการขับเคลื่อนองค์กรเพื่อต่อสู้และรับมือกับนานาภัยพิบัติ
ผศ.ดร.ณรงค์ พุทธิชีวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) กล่าวระหว่างการบรรยายพิเศษเรื่อง “ทศวรรษที่ 3 แห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏ ภัยพิบัติหรือความท้าทาย” ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มร.สข.) เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2555 ว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏกำลังก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ซึ่งมาพร้อมกับโจทย์ใหม่ที่ท้าทายยิ่ง นั่นคือ ภัยพิบัติในรูปแบบต่าง ๆ ที่จะกระโจนเข้าหา ไม่ว่าจะเป็นภาวะถดถอยและตกต่ำ นักศึกษาลดจำนวนลง การถูกผลักให้ออกนอกระบบราชการ การถูกยุบรวมหรือหลอมรวมสถาบันการศึกษา ฯลฯ ดังนั้น โจทย์ใหม่ของอุดมศึกษาไทยจึงอยู่ที่การสรรหาผู้นำที่สามารถขับเคลื่อนองค์กรเพื่อต่อสู้และรับมือกับภัยพิบัติต่าง ๆ เหลานี้ให้ได้
อธิการบดี มรส.กล่าวต่อไปว่า ในศตวรรษที่ 20 นี้ ไม่เพียงสถาบันอุดมศึกษาเท่านั้นที่ต้องการผู้นำเพื่อต่อสู้กับภัยพิบัติ แต่ยังหมายรวมถึงองค์กรและสถาบันอื่น ๆ ด้วย เช่น ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ก็มีการหยิบยกเรื่องการรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติมาพูดถึงอย่างเป็นกิจจะลักษณะ หรือในระดับประเทศ ผู้นำสหรัฐอเมริกาก็วางแผนรับมือกับภัยพิบัติต่าง ๆ ทั้งภัยเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติและภัยก่อการร้ายอย่างเอาจริงเอาจังเช่นกัน
“การรับมือและต่อสู้กับภัยพิบัติก็เหมือนกับการเล่นกระดานโต้คลื่นในทะเล หากมองว่าเป็นเรื่องน่ากลัว เราก็จะรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงและอาจถูกกลืนหายไปในเกลียวคลื่น แต่หากมองเป็นความท้าทาย เราก็จะใช้ทั้งความกล้าหาญ สติปัญญา ไหวพริบและประสบการณ์เพื่อก้าวย่างอย่างท้าทายเหนือคลื่นลูกแล้วลูกเล่าด้วยความองอาจ ทศวรรษที่ 3 ของมหาวิทยาลัยราชภัฏจึงถือเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของผู้นำสถาบันอุดมศึกษาอย่างแท้จริง” อธิการบดี มรส.กล่าว
วันวนัทธ์ วรภู เรื่อง / สมยศ นุ่นจำนงค์ ถ่ายภาพ