21 พ.ย. 2016

น.ศ.ราชภัฏสุราษฎร์ฯ ยกทีมพัฒนาวัด-โรงเรียนชี้ สร้างคนมีจิตอาสาทรงคุณค่ากว่าสร้างคนเก่ง

alt

นักศึกษารัฐประศาสนศาสตร์ ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี 70 ชีวิต ยกทีมออกค่ายอาสาพัฒนาวัดและโรงเรียนในท้องถิ่น ปรับปรุงภูมิทัศน์และสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ทางโลก-ทางธรรม คณบดีชี้ รอการสนับสนุนจากรัฐอย่างเดียวไม่ได้ ปัญญาชนคนรุ่นใหม่ต้องยื่นมือแห่งจิตอาสาเข้าช่วย อาจารย์ผู้สอนเผย สร้างคนมีจิตอาสาทรงคุณค่ากว่าสร้างคนเก่ง

ผศ.สมทรง นุ่มนวล คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักศึกษาสาขารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จำนวน 70 คน ได้ออกค่ายอาสาพัฒนา ณ โรงเรียนวัดอรัญญารามและวัดอรัญญาราม ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อพัฒนาอาคารสถานที่ ปรับปรุงภูมิทัศน์สภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนและภายในวัดให้สวยงาม สร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม

“ปัจจุบันมีโรงเรียนขนาดเล็กจำนวนมากที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ ขาดแคลนทุนทรัพย์ที่จะพัฒนาให้มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับโรงเรียนขนาดใหญ่ในเมือง หากรอเพียงการสนับสนุนจากรัฐแต่เพียงอย่างเดียวย่อมไม่ทันการ นักศึกษาปัญญาชนคนรุ่นใหม่ต้องเข้ามาช่วยเหลือและหยิบยื่นโอกาสให้กับเยาวชนรุ่นน้อง เราคือคนที่ได้รับโอกาสทางการศึกษามาก่อน ก็ต้องให้ต่อไปกับคนรุ่นหลัง แม้จะช่วยได้ไม่มากแต่ก็ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ เท่าที่สามารถช่วยได้” คณบดีกล่าว

อาจารย์อยับ ซาดัดคาน อาจารย์ประจำสาขารัฐประศาสนศาสตร์ กล่าวว่า ตนเป็นอาจารย์ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เมื่อครั้งเป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยได้ปลูกฝังเรื่องจิตอาสาและสำนึกรักท้องถิ่นให้กับตนเป็นพิเศษ เมื่อเรียนจบและกลับมาเป็นอาจารย์ที่นี่ก็ต้องการจะปลูกฝังสิ่งเดียวกันนี้ให้กับลูกศิษย์ของตน เพราะจิตอาสาเป็นเครื่องมือสำคัญและทรงอานุภาพยิ่งในการสร้างสังคมและสร้างโลกที่ดีงาม

“คนเราไม่จำเป็นต้องเก่งมาก แต่ต้องมีจิตสำนึกเพื่อท้องถิ่นและส่วนรวมให้มาก สังคมทุกวันนี้นี้มีคนเก่งจำนวนมากที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ตักตวงและเบียดบังผลประโยชน์จากส่วนรวม ทำให้สังคมไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ การสร้างคนเก่งเป็นเรื่องยาก แต่การสร้างคนที่มีจิตสาธารณะเป็นการสร้างที่ยากกว่าและทรงคุณค่ายิ่งกว่า” อาจารย์อยับกล่าว

นายอภิชัย แย้มชะยา นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขารัฐประศาสนศาสตร์ หนึ่งในผู้ร่วมออกค่ายอาสาพัฒนา กล่าวว่า กิจกรรมที่ตนและเพื่อน ๆ ได้ร่วมกันทำ ได้แก่ ทาสีป้ายและกำแพงโรงเรียนใหม่ จัดห้องสมุดโรงเรียน ทาสีอุโบสถ เมรุและศาลาการเปรียญ ถางหญ้าและทำความสะอาดภายในโรงเรียนและบริเวณวัด

“สิ่งหนึ่งที่พวกเรานักศึกษาราชภัฏภาคภูมิใจ คือ เราไม่เคยละทิ้งชุมชนท้องถิ่น ความรู้ของเรามีไว้เพื่อรับใช้ท้องถิ่น ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่พวกเราเรียนรู้จากพระราชกรณียกิจและพระราชจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เพราะพวกเราเป็นนักศึกษาของพระองค์ท่าน เนื่องจากพระองค์ท่านทรงพระราชทานนามราชภัฏและพระราชลัญจกรส่วนพระองค์ให้เป็นตราประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ” นายอภิชัยกล่าว

วันวนัทธ์ วรภู รายงาน