29 เม.ย. 2017

น.ศ.-อาจารย์ราชภัฏสุราษฎร์ผุดแคมเปญ "3 ป" พร้อมใจประหยัดพลังงานตามรอยพ่อเพื่อพอเพียง

alt

นักศึกษา อาจารย์ บุคลากร ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี ร่วมผุดแคมเปญ “3 ป: ปิดไฟ – ปรับแอร์ – ปลดปลั๊ก” เพื่อการใช้พลังงานอย่างพอเพียงตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 อธิการบดีชี้ ทำให้ติดเป็นนิสัยช่วยชาติได้มหาศาล

ผศ.สมทรง นุ่มนวล รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่าขณะนี้นักศึกษา อาจารย์และบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) ได้ร่วมใจกันผุดแคมเปญรณรงค์ประหยัดการใช้พลังงาน “3 ป” เพื่อสร้างจิตสำนึกและการตระหนักรู้ให้ทุกคนใช้พลังงานอย่างพอเพียงเพื่อความเพียงพอ เป็นการดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9

รักษาการอธิการบดีกล่าวต่อไปว่า แคมเปญ “3 ป” ประกอบด้วย 1) ป.ปิดไฟ ปิดไฟทุกครั้งเมื่อไม่ใช้ 2) ป.ปรับแอร์ ปรับแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส และ 3) ป.ปลดปลั๊ก ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้ หากทุกคนสามารถทำ 3 อย่างง่าย ๆ นี้ให้ติดเป็นนิสัยได้ จะสามารถช่วยชาติประหยัดพลังงานได้อย่างมหาศาล

“ปรัชญาพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับทุกมิติของชีวิต ในแง่ของการประหยัดพลังงานนั้น ถ้าเราใช้ไฟฟ้าในปริมาณที่พอเหมาะกับครอบครัวหรือองค์กร ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของครอบครัว ขององค์กรและของชาติได้ แล้วยังมีเงินเหลือเก็บออม ช่วยสร้างสังคมแห่งความพอเพียง และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย” ผศ.สมทรงกล่าว

นางสาวกนกรัตน์ ศรียาภัย นักประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ซึ่งเข้าร่วมรณรงค์โครงการดังกล่าวเปิดเผยว่า หลาย ๆ แห่งนิยมปรับแอร์ให้เย็นจัดเพื่อให้รู้สึกเย็นสบายคลายร้อน ในความเป็นจริงอุณหภูมิร่างกายคนเราปกติอยู่ที่ประมาณ 37 องศาฯ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องปรับแอร์ให้เย็นมาก แค่ 25 – 28 องศาฯ ก็เพียงพอที่จะลดอุณหภูมิร่างกายให้ต่ำลง และทำให้รู้สึกเย็นสบายแล้ว แถมยังประหยัดค่าไฟในแต่ละเดือนได้อีกด้วย

นายไชยวัฒน์ สิทธิมณีกุล นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มรส. หนึ่งในผู้ร่วมโครงการ “3 ป” กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็นคนหนึ่งที่มักเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ทิ้งไว้เสมอ เพราะเข้าใจว่าปิดเครื่องแล้วคงไม่เป็นไร แต่เมื่อได้มาเข้าร่วมรณรงค์โครงการ “3 ป” ทำให้รู้ว่าการเสียบปลั๊กทิ้งไว้ ต่อให้ไม่เปิดเครื่องแต่ก็มีการใช้พลังงานตลอดเวลาอยู่ดี

“จริงอยู่ว่าอาจเป็นเพียงพลังงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าทุกบ้าน ทุกตึก ทุกองค์กรเสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้ รวมกันแล้วก็เป็นพลังงานและยอดเงินจำนวนไม่น้อย ดังนั้นจะดีกว่าไหมถ้าเราร่วมใจกันสร้างนิสัยถอดปลั๊กหลังปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับเรื่องความปลอดภัยด้วยครับ คือช่วยป้องกันไม่ให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรจากการเสียบปลั๊กทิ้งไว้” นายไชยวัฒน์กล่าว

วันวนัทธ์ วรภู รายงาน
เทพรวี ทวีเฉลิมดิษฐ์ ออกแบบแบนเนอร์