13 ก.พ. 2025

ราชภัฏสดุดี 14 กุมภาพันธ์ วันราชภัฏ “ด้วยพระบารมี จึงมีราชภัฏ”

ทุกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็น “วันราชภัฏ” สืบเนื่องจากวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535 สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามสถาบันราชภัฏแก่วิทยาลัยครูทั่วประเทศ และได้มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญตราพระราชลัญจกรส่วนพระองค์เป็นตราประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ เป็นสิ่งที่นำความภาคภูมิใจสูงสุดมาสู่ชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ ซึ่งชาวราชภัฏในฐานะสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น สมควรจะเทิดพระมหากรุณาธิคุณนี้ไว้เหนือเกล้าและจงรักภักดี ด้วยการตั้งปณิธานที่จะประพฤติและปฏิบัติหน้าที่เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทในการพัฒนาประเทศและบำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชนชาวไทย ดังนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถือว่าเป็นวันราชภัฏ ซึ่งชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏถือเป็นการสถาปนามหาวิทยาลัยราชภัฏด้วยเช่นกัน

คำว่า “ราชภัฏ” ให้ความหมายที่กินใจความว่า “คนของพระราชา…ข้าของแผ่นดิน” หากตีความตามความรู้สึก ยิ่งกินใจและตีความได้กว้างขวางยิ่งขึ้นไปอีกนั่นก็คือ “การถวายงานประดุจข้าราชบริพารที่รับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทที่ต้องถวายงานอย่างสุดความสามารถ สุดชีวิต และสุดจิตสุดใจ” ซึ่งการเป็นคนของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทย่อมเป็นข้าของแผ่นดินอีกด้วย เนื่องจากว่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทผู้เป็นมิ่งขวัญของพวกเราชาวราชภัฏ ทรงเป็นแบบอย่างการทรงงานเพื่อบ้านเมืองและแผ่นดินอย่างที่มิเคยทรงหยุดพักแม้เพียงนิด แม้ยามที่ทรงประชวรก็ไม่เคยหยุดทรงงานเพื่อความสุขของปวงชนชาวสยามของพระองค์นั้นเอง ด้วยเหตุนี้น้ำละอองธุลีพระบาทจึงได้พระราชทานพระราชลัญจกร อันเป็นเครื่องประกอบพระราชอิศริยยศ พระราชอิศริยศักดิ์ ลงมาเป็นตราสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ ประหนึ่งเครื่องเตือนความทรงจำว่าพวกเรา ชาวราชภัฏคือ “คนของพระราชา และข้าของแผ่นดิน” “คนของพระราชา และข้าของแผ่นดิน”

เนื่องในวันราชภัฏ ในทุก ๆ มหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ จึงได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ ขึ้นอาทิ การทำบุญตักบาตร การจัดนิทรรศการ การเสวนาทางวิชาการ และการมอบรางวัลต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดีต่อการสนับสนุนอุดมการณ์ของ “ชาวราชภัฏ” หนึ่งในรอบปีที่มีวาระสำคัญอย่างยิ่งที่พวกเราเลือดราชภัฏจะถือโอกาสในการทำงานเพื่อสนองแนวทางพระราชดำริสืบต่อพระราชปณิธานและสืบสานพระราชประสงค์ เหมาะสมกับการเป็น “ข้ารองพระยุคลบาท” และอยากให้ชาวราชภัฏทุกท่านสำนึกอยู่เสมอว่า “มีหน้าที่อุทิศตนทำงานทุกอย่าง เพื่อเป็นบทพิสูจน์ความจงรักภักดีและเทิดทูนใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และล้นเกล้าล้นกระหม่อมทุก ๆ พระองค์อย่างหาที่สุดมิได้ สำคัญนักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ พวกเราชาวราชภัฏต้องเทิดทูนให้เหนือเกล้าเกียรติ ด้วยการปฏิบัติทุกภารกิจที่ได้รับหมายประหนึ่งทำถวายใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทในทุกกรณี เพราะพวกเราชาวราชภัฏคือ “คนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน”

เนื่องในวันราชภัฏ ประจำปี 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีจัดกิจกรรม 14 กุมภาพันธ์ วันราชภัฏ “ด้วยพระบารมี จึงมีราชภัฏ” และได้ประพันธ์บทกลอน “วันราชภัฏ”

“วันราชภัฏ”

ชื่อเรียกขานราชภัฏประวัติว่า
พระราชาแห่งสยามตั้งนามให้
ลัญจรแทนเอกองค์พระทรงชัย
เทิดมั่นไว้ในสัญญา “ข้าแผ่นดิน”

ราชพฤกษ์เหลืองอร่ามยามรุ่งแจ้ง
ถิ่นฟ้า-แดงแหล่งเขียนอ่านประสานศิลป์
สร้างบัณฑิตประสิทธิ์ศาตร์ราษฎร์ยลยิน
ปลุกท้องถิ่นให้ยืนท้าชะตาตน

“วิศวกรสังคม” ตนแกล้วกล้า
นำปัญหามาวิจัยให้เป็นผล
เป็นนักคิด-นักสื่อสาร-ประสานชน
ตรองเหตุ-ผลด้วยแนวทางสร้างนวัตกรรม

“ราชภัฏ” คือกำลังหวังเปลี่ยนโลก
สู้ทุกข์โศกวิโยคร้ายพ่ายถลำ
เปลี่ยนความกลัวเป็นความกล้าฝ่าระกำ
ใช้แสงธรรมนำชะตาอย่างท้าทาย

ประพันธ์โดย ดร.สมปราชญ์ วุฒิจันทร์