22 ธ.ค. 2011

มรส.ชูปี ๕๕ “ปีแห่งการพัฒนาบุคลากร” ผุด “สำนักยุทธศาสตร์ฯ” ตั้ง “ศ.ชวน” ที่ปรึกษาหนุนเต็มกำลัง อาจารย์สร้างผลงานวิชาการ

มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีชูปี ๒๕๕๕ เป็นปีแห่งการพัฒนาบุคลากร ผุดสำนักยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากร พร้อมตั้ง ศ.ชวน เพชรแก้ว นั่งที่ปรึกษา หนุนเต็มกำลัง ผลักดันอาจารย์สร้างผลงานวิชาการ อธิการบดีชี้คนพันธุ์ดี มีศักยภาพ เมื่อถึงเวลาต้องมีผลงานเป็นหน้าเป็นตาให้กับองค์กร

เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ ณ ห้องราชาวดี อาคารบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) มีการประชุมโครงการการพัฒนาบุคลากรสายวิชาการในการทำผลงานวิชาการ ครั้งที่ ๑ โดยมี ผศ.ดร.ณรงค์ พุทธิชีวิน อธิการบดี มรส. เป็นประธานในการประชุม ร่วมด้วยคณะผู้บริหาร อาทิ รศ.ปราณี เพชรแก้ว รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ, รศ.ดร.ชูศักดิ์ เอกเพชร คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย, รศ.ดร.ธงชัย เครือหงษ์ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, อาจารย์อร่ามรัศมิ์ ด้วงชนะ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสหกิจศึกษา ฯลฯ และมีอาจารย์ที่อยู่ระหว่างการทำผลงานวิชาการเข้าร่วมอีกกว่า ๑๐๐ คน

ผศ.ดร.ณรงค์ พุทธิชีวิน กล่าวว่า มหาวิทยาลัยกำหนดให้ปี ๒๕๕๕ ที่กำลังจะถึงนี้เป็นปีแห่งการพัฒนาบุคลากร โดยจะส่งเสริมและสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้อาจารย์ หรือบุคลากรสายวิชาการได้สร้างผลงานวิชาการ ทั้งนี้ได้ตั้งหน่วยงานขึ้นมารองรับ คือ สำนักยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากร มี ศ.ชวน เพชรแก้ว เป็นที่ปรึกษา และมีสำนักงานอยู่ที่ชั้น ๑ อาคารอำนวยการ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่สำหรับตอบคำถาม และอำนวยความสะดวกแก่อาจารย์ที่ต้องการ

อธิการบดี มรส. กล่าวต่อไปว่า มหาวิทยาลัยจะผลักดันกระตุ้น และเร่งเร้าให้อาจารย์ทำผลงานวิชาการ ด้วยความเชื่อมั่นว่า ต้นไม้พันธุ์ดี และมีกิ่งก้านลำต้นแข็งแรง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็ต้องผลิดอก ออกผล คนก็ไม่ต่างจากต้นไม้ คนพันธุ์ดี และถึงพร้อมด้วยศักยภาพ เมื่อถึงเวลาก็ต้องมีผลงาน และเป็นหน้าเป็นตาให้กับองค์กรเช่นกัน ตรงข้าม หากคน หรือต้นไม้นั้นเมื่อสมควรแก่เวลาแล้วยังไร้ดอก ไร้ผล ไร้ผลงาน ก็คงไม่อาจเรียกว่าเป็น “ไม้พันธุ์ดี” หรือ “คนพันธุ์ดี” ได้อีกต่อไป

“ผลงานมิได้วัดจากคำบอกเล่า หากวัดจากผลงานเชิงประจักษ์ ซึ่งมหาวิทยาลัยต้องการให้อาจารย์ทุกคนมีผลงานวิชาการเป็นที่ประจักษ์ โดยมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้ตระเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก และกระบวนการเอาไว้ให้ อาจารย์ท่านใดที่ต้องการนับหนึ่งในการทำผลงานวิชาการ เพียงท่านเดินเข้ามาที่สำนักงานยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากร ท่านก็จะได้รับคำตอบว่า จะนับหนึ่งได้อย่างไร แล้วเมื่อท่านเดินออกจากสำนักงานแห่งนี้ไป ท่านจะพบว่า ท่านได้ก้าวต่อไปเป็นก้าวที่ ๒ และ ๓ แล้ว” ผศ.ดร.ณรงค์ กล่าว